เมนู

หมวดที่ 4


[621] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสงฆ์จำนงพึงทำตัสสปาปิยสิกา-
กรรมแก่ภิกษุ 3 รูป คือ รูปหนึ่งเป็นผู้ก่อความบาดหมาง ก่อการ
วิวาท ทำความอื้อฉาว ก่ออธิกรณ์ในสงฆ์ รูปหนึ่งเป็นพาล ไม่ฉลาด
มีอาบัติมาก มีมรรยาทไม่สมควร รูปหนึ่งคลุกคลีกับคฤหัสถ์ด้วยการ
คลุกคลีอันไม่สมควร
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสงฆ์จำนงพึงทำตัสสปาปิยสิกากรรม แก่
ภิกษุ 3 รูปนี้แล.

หมวดที่ 5


[622] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสงฆ์จำนงพึงทำตัสสปาปิยสิกา-
กรรมแก่ภิกษุ 3 รูป แม้อื่นอีก คือ รูปหนึ่งเป็นผู้มีศีลวิบัติในอธิศีล
รูปหนึ่งเป็นผู้มีอาจารวิบัติในอัธยาจาร รูปหนึ่งเป็นผู้มีทิฏฐิวิบัติใน
อติทิฏฐิ
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสงฆ์จำนงพึงทำตัสสปาปิยสิกากรรม แก่
ภิกษุ 3 รูปนี้แล.

หมวดที่ 6


[623] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสงฆ์จำนงพึงทำตัสสปาปิยสิกา-
กรรมแก่ภิกษุ 3 รูป แม้อื่นอีก คือ รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระพุทธเจ้า
รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระธรรม รูปหนึ่งกล่าวติเตียนพระสงฆ์

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เมื่อสงฆ์จำนงพึงทำตัสสปาปิยสิกากรรมแก่
ภิกษุ 3 รูป นี้แล.
ข้อที่สงฆ์จำนง 6 หมวด จบ

วัตร 18 ข้อ


[624] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุที่ถูกสงฆ์ทำตัสสปาปิยสิกากรรม
แล้วนั้น ต้องประพฤติชอบ วิธีประพฤติชอบในตัสสปาปิยสิกากรรม
นั้น ดังต่อไปนี้ :-
1. ไม่พึงให้อุปสมบท
2. ไม่พึงให้นิสัย
3. ไม่พึงให้สามเณรอุปัฏฐาก
4. ไม่พึงรับสมมติเป็นผู้สั่งสอนภิกษุณี
5. แม้ได้รับสมมติไว้แล้ว ก็ไม่พึงสั่งสอนภิกษุณี
6. สงฆ์ทำตัสสปาปิยสิกากรรมเพราะอาบัติใด ไม่พึงต้องอาบัตินั้น
7. ไม่พึงต้องอาบัติอื่นอันเช่นกัน
8. ไม่พึงต้องอาบัติอันเลวทรามกว่านั้น
9. ไม่พึงติกรรม
10. ไม่พึงติภิกษุทั้งหลายผู้ทำกรรม